แอป Privacy มีคุณสมบัติ Anti-SIM Swap และ Anti-Scam ซึ่ง เป็นเครื่องมือสื่อสารแบบมัลติมีเดียและแบบมัลติโหมดที่ให้บริการการโทร/วิดีโอ การส่งข้อความ รายชื่อผู้ติดต่อ อีเมล และมีความสามารถในการป้องกันการฉ้อโกง CallerID และความสามารถในการติดตามการโทร โดยแอป Privacy สามารถใช้งานได้ทั้งเครือข่าย IP และ LTE โดยจะใช้งานแบบแยกเครื่อข่ายหรือจะใช้ทั้งสองเครือข่ายพร้อมกัน
แอป VoIP เช่น WhatsApp และ Telegram จะใช้การออกแบบระบบแบบ Client/Server ซึ่งใช้เซิร์ฟเวอร์กลางในการสื่อสารทั้งหมดระหว่างผู้ใช้ปลายทาง ซึ่งการสื่อสารด้วย VoIP ทั้งหมดจะถูกเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้เกิดความเสี่ยงในการถูกดักฟังข้อมูล การถูกเจาะรายละเอียดและถูกติดตามข้อมูลส่วนตัว แต่การสื่อสารทั้งหมดบนแอป Privacy จะไม่ใช้ระบบ VoIP
การโทรและการส่งข้อความทั้งหมดโดยแอป Privacy จะเกิดขึ้นบนเครื่อข่ายเทคโนโลยี LTE ซึ่งเหมาะสำหรับการสื่อสารแบบ peer-to-peer และ point-to-point แบบส่วนตัวโดยไม่มีการเชื่อมต่อผ่านเซิร์ฟเวอร์กลาง ซึ่งการดำเนินงานทั่วไปจะผ่านโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมสามารถกล่าวได้ว่าการสื่อสารนี้จะไม่ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
ดังนั้นแอป Privacy สามารถให้การสื่อสารแบบส่วนตัวที่ดียิ่งขึ้น โดยในปัจจุบันแอปการสื่อสารแบบ VoIP ที่มีอยู่ทั้งหมดไม่สามารถให้บริการได้
ประโยชน์ของการมีชื่อโดเมนบนโทรศัพท์ (T-DNS) คือการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถสร้างบัตรโทรศัพท์และชื่อแบรนด์สำหรับตนเองและธุรกิจของตนได้